2011年03月30日
โอกินาว่าในสมัยราชวงศ์ริวกิว
ราชวงศ์ริวกิวมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 450 ปี ได้สร้างรากฐานวัฒนธรรมประเพณีที่โดดเด่นไว้มากมาย
คัทซึเร็นโจ (มรดกโลก)
โอกินาว่าเป็นสังคมเกษตรกรรมมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ผู้ที่ครองอำนาจในการสืบทอดกุซุกุ (ปราสาท) คือรัชทายาทที่เรียกว่า “อะจิ” มีหน้าที่ในการชี้นำและเป็นผู้นำ ต่อมามีการแก่งแย่งและยึดอำนาจ เข้าศตวรรษที่ 14 เกาะโอกินาว่าได้ถูกแบ่งแยกอำนาจการปกครองออกเป็น 3 ส่วนและเข้าสู่สมัย “ซังซัง จิได” โอกินาว่าได้พัฒนาและเจริญเติบโตจากการปกครองทั้ง 3 ส่วนนั้น
ในศวรรษที่ 15 ได้มีการรวมอำนาจของราชวงศ์ขึ้นและสถาปนาราชอาณาจักรริวกิว
ชูริโจ (มรดกโลก)
มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่อยมา นับเป็นสมัยที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด จนในปี 1609 มีการขยายอำนาจและเข้าครอบครองโดยแม่ทัพ ในสมัยรัฐบาลโชกุล “ซาซึมาฮัง” ริวกิวได้ตกอยู่ภายใต้การปกครอง จากนั้นเข้าสู่สมัยเอโดะ ริวกิวได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของประเทศจีนและญี่ปุ่น มีการดูดซับและปรับเปลี่ยนจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตน นับเป็นยุคทองของวัฒนธรรมริวกิวเลยทีเดียว
ทั้งปราสาทในโอกินาว่าที่ได้เป็นมรดกโลก ล้วนสร้างความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ของโอกินาว่าต่อผู้พบเห็นทั้งสิ้น การท่องเที่ยวไปในโบราณสถานมรดกโลก และค้นหาประวัติศาสตร์อันยาวนานของโอกินาว่า ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อย
คัทซึเร็นโจ (มรดกโลก)
โอกินาว่าเป็นสังคมเกษตรกรรมมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ผู้ที่ครองอำนาจในการสืบทอดกุซุกุ (ปราสาท) คือรัชทายาทที่เรียกว่า “อะจิ” มีหน้าที่ในการชี้นำและเป็นผู้นำ ต่อมามีการแก่งแย่งและยึดอำนาจ เข้าศตวรรษที่ 14 เกาะโอกินาว่าได้ถูกแบ่งแยกอำนาจการปกครองออกเป็น 3 ส่วนและเข้าสู่สมัย “ซังซัง จิได” โอกินาว่าได้พัฒนาและเจริญเติบโตจากการปกครองทั้ง 3 ส่วนนั้น
ในศวรรษที่ 15 ได้มีการรวมอำนาจของราชวงศ์ขึ้นและสถาปนาราชอาณาจักรริวกิว
ชูริโจ (มรดกโลก)
มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้านเรื่อยมา นับเป็นสมัยที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด จนในปี 1609 มีการขยายอำนาจและเข้าครอบครองโดยแม่ทัพ ในสมัยรัฐบาลโชกุล “ซาซึมาฮัง” ริวกิวได้ตกอยู่ภายใต้การปกครอง จากนั้นเข้าสู่สมัยเอโดะ ริวกิวได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของประเทศจีนและญี่ปุ่น มีการดูดซับและปรับเปลี่ยนจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตน นับเป็นยุคทองของวัฒนธรรมริวกิวเลยทีเดียว
ทั้งปราสาทในโอกินาว่าที่ได้เป็นมรดกโลก ล้วนสร้างความรู้สึกถึงประวัติศาสตร์ของโอกินาว่าต่อผู้พบเห็นทั้งสิ้น การท่องเที่ยวไปในโบราณสถานมรดกโลก และค้นหาประวัติศาสตร์อันยาวนานของโอกินาว่า ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อย
Posted by Visit Okinawa (TH) at 18:16│Comments(0)